เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผักและผลไม้นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อการลดน้ำหนักเพียงใด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง อาหารสีเขียวที่ดีต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก ควรค่าต่อการรับประทาน ! ซึ่งเป็นข้อมูลดีๆที่ควรบอกต่ออย่างยิ่ง และหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังจริงจังกับการลดน้ำหนักอย่างมาก เราจึงจะขออนุญาตแนะนำอาหารที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ให้คุณได้รู้จักถึงคุณสมบัติที่ดีที่น่าสนใจให้คุณได้ทราบดังต่อไปนี้
Eddy Zecchinon/Getty Images
อะโวคาโดซึ่งอาจปรับปรุงการมองเห็นของคุณด้วยวิตามินอี
ในอะโวคาโดหนึ่งลูกยังมีวิตามินอี 3.1 มิลลิกรัม (มก.) เป็นแหล่งวิตามินที่ดีเยี่ยม วิตามินอีทำงานเหมือนสารต้านอนุมูลอิสระ ตามที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ระบุเอาไว้ว่า ในผลไม้อะโวคาโดช่วยปกป้องร่างกายของคุณจากสารอันตรายที่เรียกว่าอนุมูลอิสระได้ นอกจากนี้การทบทวนการศึกษาในสัตว์ยังชี้ให้เห็นว่าวิตามินอีอาจช่วยปรับปรุงปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจและความจำได้เป็นอย่างดี
อะโวคาโดมีลูทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสุขภาพดวงตา โดยมีปริมาณ 406 ไมโครกรัม (mcg) ต่อผล ลูทีนอาจปรับปรุงหรือป้องกันจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการตาบอดและความบกพร่องทางสายตา ประโยชน์ของอะโวคาโดไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น อะโวคาโดทั้งลูกมีเส้นใยอาหาร 10 กรัม ซึ่งแน่นอนว่ามันอุดมไปด้วยสารอาหารที่เรียกกันว่าไฟเบอร์ ซื้อไฟเบอร์เหล่านี้มีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาอาการท้องผูก พร้อมกับช่วยรักษาน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจได้ รวมไปถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย
Ray Kachatorian/Getty Images
คะน้าผักที่มีสารต้านมะเร็ง
คะน้าเป็นพืชตระกูลกะหล่ำแม้ว่าผักคะน้ามักจะได้รับการโฆษณามากมายในโลกโภชนาการ แต่ก็มีเหตุผลที่ดีว่าทำไมผักคะน้ามีสารอาหารที่น่าประทับใจ เนื่องจากในผักคะน้าดิบปริมาณ 1 ถ้วยจะมีปริมาณของไฟเบอร์ประมาณ 1 กรัม ข้อมูลนี้อ้างอิงจาก USDA คะน้ายังมาพร้อมกับวิตามินเค 98 ไมโครกรัมทำให้เป็นแหล่งที่ดีเยี่ยม และนั่นเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากวิตามินเคช่วยในการแข็งตัวของเลือด และทำให้กระดูกของคุณแข็งแรง พร้อมด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพอื่นๆอีกมากมาย
ตามข้อมูลของ NIH ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าวิตามินซีที่อยู่ในคณะนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องเซลล์ที่อาจได้รับความเสียหายจากอนุมูลอิสระ วิตามินซียังเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญโปรตีนและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นจึงสามารถช่วยต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ จากการวิจัยที่ผ่านมาพบว่าการกินคะน้าสามารถยับยั้งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร หมายความว่าคะน้าอาจช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม
นอกจากนี้ สารประกอบในคะน้าที่เรียกว่ากลูโคซิโนเลตยังถูกย่อยสลายในการย่อยและเกิดเป็นสารประกอบที่เรียกว่า “อินโดล” และ “ไอโซไทโอไซยาเนต” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสามารถหยุดการเจริญเติบโตของมะเร็งบางชนิด ในการศึกษาในสัตว์และในห้องปฏิบัติการตามข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กับการศึกษาในมนุษย์เกี่ยวกับผักตระกูลกะหล่ำได้พบว่าคณะความสามารถในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ และสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม แต่มีศักยภาพในการป้องกันมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ปอด และเต้านม อีกทั้งในผักคะน้าเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหาร เช่น วิตามิน C และ K คะน้าเป็นอาหารชั้นยอดที่จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคน
กะหล่ำดาวซึ่งให้โพแทสเซียมช่วยสนับสนุนความดันโลหิตที่ดี
กะหล่ำดาวนั้นถือเป็นอีกหนึ่งผักที่เป็นพืชตระกูลกะหล่ำที่มีศักยภาพอีกชนิดหนึ่ง กะหล่ำดาวเต็มไปด้วยวิตามินซีที่สนับสนุนภูมิคุ้มกัน กะหล่ำดาวดิบหนึ่งถ้วยมีวิตามินซีประมาณ 75 มก. ตามข้อมูลของ USDA ทำให้เป็นแหล่งที่ดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าเนื่องจากวิตามินซีไวต่อความร้อน ดังที่งานวิจัยชิ้นหนึ่งบันทึกไว้ การปรุงกะหล่ำดาวให้จะลดปริมาณสารอาหารเหล่านั้นให้ลดน้อยลงได้ ดังนั้นการบริโภคผักกะหล่ำดาวแบบดิบจะได้สารอาหารที่มากกว่า นอกจากนี้คุณยังได้รับไฟเบอร์มากกว่า 3.3 กรัม ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่ดี ถ้วยให้โพแทสเซียมได้มากถึง 342 มิลลิกรัม
โพแทสเซียมมีความสำคัญต่อทุกสิ่งตั้งแต่การรักษาหัวใจและไตของคุณ ไปจนถึงการหดตัวของกล้ามเนื้อตามข้อมูลของ NIH ที่ได้ระบุไว้ ในขณะเดียวกันการบริโภคแร่ธาตุน้อยเกินไปนั้นสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ก็ได้ถูกตั้งข้อสังเกตเอาไว้เช่นกัน และหน่วยงานต่างๆจึงแนะนำให้เพิ่มปริมาณโพแทสเซียมในอาหารของคุณด้วยการรับประทานกะหล่ำดาวกันอย่างมากมาย รวมถึงการจำกัดการบริโภคโซเดียมเพื่อช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองไปพร้อมๆกัน
กีวีซึ่งมีเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้นอนหลับสบาย
จากข้อมูลของ USDA กีวีทั้งเปลือก 2 ลูก มีแคลอรี่รวมกัน 96 แคลอรี มีไฟเบอร์ประมาณ 4.5 กรัม มี วิตามินซี 112 มก. และมี 39 ไมโครกรัมของกีวี โฟเลต ซึ่งโฟเลตทำทุกอย่างในการช่วยบำรุงสุขภาพตั้งแต่ช่วยสร้าง DNA และส่วนประกอบทางพันธุกรรมอื่น ๆ ไปจนถึงช่วยให้เซลล์แบ่งตัว
กีวีอาจช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่ากีวีมีสารเซโรโทนิน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นอนหลับไม่สนิท การรับประทานกีวีเป็นประจำสามารถช่วยให้ผู้คนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น รวมถึงนอนหลับได้นานขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้นด้วย
ถั่วแระซึ่งมีโปรตีนจากพืชและอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ถั่วแระเหล่านี้ควรค่าแก่การสั่งเป็นเครื่องเคียงหรือโรยหน้าสลัดครั้งต่อไปของคุณ ถั่วแระญี่ปุ่นเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดีและถือว่าเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ด้วย โปรตีนที่สมบูรณ์ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้ง 9 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง ถั่วแระญี่ปุ่นแกะเปลือกสุกหนึ่งถ้วยมีโปรตีนมากถึง 18.4 กรัม การได้รับโปรตีนให้เพียงพอเป็นกุญแจสำคัญ เพราะพบได้ในเกือบทุกส่วนของร่างกาย และมีหน้าที่ในกระบวนการสำคัญในร่างกายของคุณ เช่น สร้างฮีโมโกลบินที่ขนส่งออกซิเจนในเลือดของคุณ
แต่การแทนที่แหล่งโปรตีนจากสัตว์ด้วยโปรตีนจากพืชอาจเป็นประโยชน์ต่อหัวใจของคุณ เพราะแหล่งโปรตีนเหล่านี้มักมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า ผลกระทบในเชิงบวกของโปรตีนถั่วโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสุขภาพของหัวใจ ซึ่งรวมถึงการลดคอเลสเตอรอลชนิด LDL ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสอดคล้องกันในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
Tom Merton/Getty Images
โหระพามียูจีนอลซึ่งเป็นน้ำมันที่อาจช่วยต่อสู้กับการอักเสบ
ถึงเวลาเพิ่มรสชาติมื้ออาหารของคุณด้วยใบโหระพาและมอบประโยชน์ด้านสุขภาพ ให้กับตัวเองแล้วเนื่องจากในใบโหระพาอุดมไปด้วยกรดโรสมารินิกและคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารประกอบฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง กรดเหล่านี้อาจมีคุณสมบัติในการป้องกันระบบประสาท อ้างอิงจาก Developmenting Therapeutics for Alzheimer’s Disease ซึ่งเป็นหนังสือวิชาการที่มีการทบทวนงานวิจัยเกี่ยวกับการรักษาอัลไซเมอร์ และการศึกษาได้ให้เครดิตเกี่ยวกับสารประกอบในโหระพาที่เรียกว่า Fenchol ที่อาจช่วยป้องกันสมองจากโรคอัลไซเมอร์
ใบโหระพามียูจีนอล ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ จากการทบทวนการศึกษาวิจัยหนึ่งพบว่าคุณสมบัติต้านการอักเสบของยูจีนอลอาจทำให้เป็นการรักษาเสริมสำหรับโรคอักเสบได้
นอกจากนี้คุณยังให้พลังงานแคลอรี่น้อยมาก ทำให้สมุนไพรนี้เป็นส่วนเสริมที่ชาญฉลาดสำหรับอาหารลดน้ำหนัก สำหรับการบริโภคใบโหระพาสด ¼ ถ้วย จะมีปริมาณแคลอรีมากกว่าหนึ่งแคลอรี และจากการศึกษาขนาดเล็กของผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน พบว่าการใส่เครื่องเทศต่างๆ รวมทั้งใบโหระพาในอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูงอาจลดระดับการอักเสบของคุณหลังมื้ออาหารได้
ขอฝากเรื่องราว อาหารสีเขียวที่ดีต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก ควรค่าต่อการรับประทาน ! ไว้แต่เพียงเท่านี้แล้วกลับมาพบกันใหม่ใน EP 2 ค่ะ